เรียกได้ว่าการส่งสินค้าเป็นกิจกรรมยอดนิยมเพราะยุคนี้มีการทำธุรกิจแบบออนไลน์ซึ่งเห็นได้มากกว่าอดีต เนื่องจากพฤติกรรมการซื้อและขายสินค้าที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หลายคนนิยมสั่งของออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้มีบริการ ส่งของ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ บทความนี้จะมาพูดถึงการจัดส่งสินค้าที่ดีว่าควรมีการส่งแบบใดบ้าง
การส่งของคือ
การส่งสินค้า หรือก็คือการ ส่งของ เป็นการย้ายสินค้าจากสถานที่แห่งหนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง ยกตัวอย่างคือ การย้ายสินค้าที่มาจากคลังสินค้าส่งไปให้กับลูกค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดส่งโดยตัวแทนขนพัสดุ เช่น เคอรี่, ไปรษณีย์ไทย, EMS, แฟลช เอ็กเพรส ซึ่งการส่งสินค้าก็จะมีช่องทางที่หลากหลาย โดยแต่ละช่องทางก็มีขั้นตอนในการจัดส่งที่ไม่เหมือนกัน และการ ส่งของ มีทั้งการส่งสำหรับบุคคลทั่วไปและพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ แต่ละแบบมีการจัดส่งที่มีความสำคัญต่างกัน
การส่งของที่ดี มีขั้นตอนอย่างไร
สำหรับขั้นตอนในการส่งของ จะมีอยู่ทั้งหมด 3 ขั้นตอน โดยสามารถกล่าวได้ดังต่อไปนี้
- ตรวจเช็คสินค้าที่ส่งว่ามีความถูกต้องตามใบสั่งซื้อหรือไม่ เพื่อลดหรือไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการจัดส่ง สิ่งที่ควรตรวจสอบ เช่น รหัสสินค้า ไซส์ สี จำนวน เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดก็จะลดความผิดพลาดไม่ให้ลูกค้าตำหนิได้ว่าสินค้าส่งไม่ครบหรือเสียหาย
- แยกช่องทางสำหรับการจัดส่งให้ดีและชัดเจนทุกครั้ง โดยจะต้องแยกสินค้าไปตามบริษัทขนส่งแต่ละแห่ง ไม่วางสินค้าปนเปกันเพื่อไม่ให้เสียเวลาจัดใหม่หรือป้องกันสินค้าที่ตกหล่น ยกตัวอย่างคือ แม่ค้าคนหนึ่งแยกสินค้าที่ส่งทางไปรษณีย์ไว้ในพาเลทหรือกล่อง หากส่งทางเคอรี่ให้ทำการแยกออกมาโดยติดป้ายเคอรี่บนกล่องก็ได้ นอกจากนี้สิ่งสำคัญคือ ควรแยกโซนสินค้าไม่ให้ปนกัน การทำเช่นนี้จะทำให้มีความรวดเร็วในการทำงานมากยิ่งขึ้น
- บันทึกข้อมูลของการ ส่งของ ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการติดตามผล ช่วยให้ลูกค้ารู้สถานการณ์จัดส่ง ไม่เพียงเท่านั้นยังมีข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการสั่งซื้อของลูกค้าที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจมากเลยทีเดียว เนื่องจากคุณสามารถเอาข้อมูลที่ได้นี้มาใช้วางแผนการตลาดได้ด้วย
จะเห็นได้จากที่กล่าวมานี้ทำให้คุณได้รู้เรื่องเกี่ยวกับการ ส่งของ ที่ดีและมีประสิทธิภาพว่าควรจัดส่งอย่างไรเพื่อให้สินค้าถูกส่งไปยังมือผู้รับได้อย่างปลอดภัย ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง อีกทั้งช่วยให้ผู้ขายสามารถนำข้อมูลมาวางแผนการตลาดได้ด้วย ขั้นตอนเหล่านี้เป็นสิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทุกคนควรกระทำเพื่อธุรกิจการค้าขายที่เจริญก้าวหน้าในอนาคต
